30 มิถุนายน 2553

ครูพายุ-ณัฐศักดิ์ ครูสอนว่ายน้ำ ฮีโร่ของเด็ก ๆ หูหนวก


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

...ถ้าเราหูดีพูดได้ ตะโกนได้ จมน้ำก็ตะโกนขอความช่วยเหลือได้ แล้วถ้าคนที่ตะโกนไม่ได้หรือคนหูหนวก จมน้ำขึ้นมาจะทำอย่างไร... ??????

คำถามที่เกิดขึ้นในใจ ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลให้ ณัฐศักดิ์ ท้าวอุดม หรือ ครูพายุ อดีตนักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติไทย เลือกทางเดินชีวิตมาเป็นครูสอนว่ายน้ำให้กับเด็กหูหนวก เพื่อหวังลดสถิติการจมน้ำตายของเด็กไทย ที่นอกจากจะว่ายน้ำไม่เป็นแล้ว ยังไม่สามารถร้องเรียกขอความช่วยเหลือได้

ทว่า อุปสรรคของการสื่อสารทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ ครูพายุ จะสอนเด็กหูหนวกให้ว่ายน้ำเป็นในระยะเวลาอันรวดเร็ว "ภาษามือ" จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ ครูพายุ ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจศึกษามาเป็นแรมปี เพื่อนำไปใช้สื่อสารกับเด็ก ๆ เหล่านั้น วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ ครูพายุ ครูสอนว่ายน้ำจิตใจงาม ซุปเปอร์ฮีโร่ของเด็ก ๆ หูหนวกกัน

แรงบันดาลใจในการมาเป็นครูสอนว่ายน้ำเด็กหูหนวก ?

ครูพายุ : ระหว่างที่นั่งว่าง ๆ เกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าเราหูดีพูดได้ ตะโกนได้ จมน้ำก็ตะโกนขอความช่วยเหลือได้ แล้วถ้าคนที่ตะโกนไม่ได้หรือคนหูหนวก จมน้ำขึ้นมาจะทำอย่างไร เลยเป็นที่มาของโครงการสอนว่ายน้ำเพื่อเด็กหูหนวก ก่อนหน้านั้น ผมเริ่มต้นจากการเป็นครูสอนว่ายน้ำให้เด็กปกติก่อน จากนั้นมีผู้ปกครองพาลูกเป็นออทิสติกมาให้ผมสอน น้องคนนี้ฉลาดมาก สามารถจำหมายเลขทางหลวงในเชียงใหม่ได้ทั้งหมด รวมทั้งหมายเลขทางหลวงในประเทศไทยที่เคยไปมาได้หลายทางมาก ผมเริ่มสนใจเด็กออทิสติก ประกอบกับตัวผมเองในอดีตเคยมีอาการของเด็กพิเศษกลุ่มหนึ่งคือ ADHD (Attention Deficit Hyperactive Disorder) หรือเด็กสมาธิสั้น ประกอบกับมีอาการลมชักร่วมด้วย คุณพ่อเลยพาไปว่ายน้ำเพื่อเป็นการบำบัด อาการเลยดีขึ้น

จากนั้นจึงคิดว่า หากบำบัดกับเราแล้วอาการดีขึ้น น่าจะช่วยเด็กสมาธิสั้นได้ เลยมีการทำคอร์สพิเศษเพื่อสอนเด็กออทิสติกจริงจัง โดยขยายความคิดนี้ไปถึงเด็กหูหนวก เพราะเด็กหูหนวกบางคนมีอาการซ้ำซ้อน ทั้งหูหนวกและออทิสติก หรือหูหนวกและเอ็มอาร์ (Mental Retradation) หรือเด็กบกพร่องทางสติกปัญญา ซึ่งเด็กพวกนี้ก็น่าจะมีโอกาสได้เรียนด้วย

เด็กสอนยากไหม การสื่อสารด้วยภาษามือเป็นอุปสรรคมากหรือเปล่า ?

ครูพายุ : สนุกครับ แต่ยากตอนเรียนภาษามือครั้งแรก เพราะไม่มีที่ไหนเปิดสอน หากมีสอนหรือมีเรียนก็จะเป็นแบบที่ง่าย ๆ และด้วยความที่หาเรียนยาก ผมเลยยิ่งอยากเรียน เรียนเองอยู่ประมาณหนึ่งปีกว่า ๆ จากการค้นคว้าหาหนังสืออ่านเอาเอง ได้คำศัพท์จากภาษามือเยอะมาก แต่ว่าใช้สื่อสารไม่ได้ เพราะไวยากรณ์ภาษามือกับไวยากรณ์ภาษาไทยแตกต่างกัน เช่น คนหูดีพูดว่า "วันนี้อากาศร้อนมาก อยากไปเที่ยวทะเล ไปด้วยกันไหม" คนหูหนวกพูดว่า "อากาศร้อนมาก ทะเลเที่ยวไหมนะ ด้วยกันไหมนะ" เข้าใจแต่ผิดไวยากรณ์ ดังนั้น ยากที่สุดคือการเรียนภาษามือเอง จนในที่สุดได้มีโอกาสได้พบครูสอนภาษามือครั้งแรก เป็นพี่ ๆ ที่ขายของตามถนนคนเดินเชียงใหม่ ช่วยสอนภาษามือและไวยากรณ์ให้ แลกกับการช่วยขายของ จนในที่สุดก็สื่อสารภาษามือได้

ประสบการณ์ที่น่าประทับใจในการสอน ?

ครูพายุ : เป็นครั้งแรกในชีวิตผมครับ ที่สอนเด็กร้อยกว่าคน แล้วไม่ต้องใช้เสียง (ไม่เมื่อยปากเลย แต่เมื่อยมือมาก) และที่สำคัญ เวลาผมไปโรงเรียนโสต (โรงเรียนโสตศึกษา อนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่) เด็กทุกคนจะวิ่งมารุมพร้อมกับถามเป็นภาษามือว่า "ว่ายน้ำวันไหน สมัครที่ไหน เรียนกี่โมง ครูพายุสอนใช่ไหม" ทำให้รู้ว่าโครงการนี้นอกจากจะสร้างประโยชน์ด้านการสอนว่ายน้ำแล้ว ยังทำให้เด็ก ๆ มีความสุขด้านจิตใจอีกด้วย

ปัจจุบันมีลูกศิษย์กี่คน ?

ครูพายุ : ปีที่แล้วมีนักเรียนที่พิการทางหู 40 คน ปีนี้ 100 คน รวมแล้วก็ 140 คนครับ

ในอนาคต มีแพลนจะทำโครงการอะไรดี ๆ แบบโครงการสอนเด็กหูหนวกว่ายน้ำอีกไหม ?

ครูพายุ : อาจจะมีการต่อยอดโครงการสอนว่ายน้ำเพื่อเด็กหูหนวกครับ เพราะยังมีกีฬาอื่นที่ต้องใช้พื้นฐานทางกีฬาว่ายน้ำ เช่น กีฬาพายเรือ ซึ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จในระดับชาติสูงมากในอนาคต แต่ต้องมีพื้นฐานด้านการว่ายน้ำที่ดีก่อน เนื่องจากต้องฝึกพายจริงในแม่น้ำที่มีอันตรายสูงหากเกิดเรือคว่ำ

อย่างไรก็ตาม ครูพายุ ฝากบอกด้วยว่า ตอนนี้เด็กๆ จากโครงการสอนว่ายน้ำเพื่อเด็กหูหนวก ยังขาดแคลนทุนทรัพย์ด้านอุปกรณ์ หากท่านใดอยากช่วยสนับสนุนโครงการดี ๆ แบบนี้ สามารถร่วมสนับสนุนได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสุเทพ เลขที่บัญชี ออมทรัพย์ 471-2-30670-5 ชื่อบัญชี โครงการสอนว่ายน้ำเพื่อเด็กด้อยโอกาส โดย นายณัฐศักดิ์ ท้าวอุดม หรือเข้าไปเยี่ยมชมรายละเอียดได้ที่ http://www.krupayu.com/ / @kpayu

การศึกษา : มัธยมศึกษา โรงเรียนปริศรอยแยลส์ วิทยาลัยเชียงใหม่ ปริญญาตรี คณะการสื่อสารมวลชน สาขาการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ ปริญญาโท คณะศึกษาศาสตร์ สาขาการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (กำลังศึกษา)

ประสบการณ์การทำงาน : ครูสอนว่ายน้ำเพื่อเด็กออทิสติก, ครูสอนว่ายน้ำ English Program และครูสอนว่ายน้ำเพื่อเด็กหูหนวก

14 มิถุนายน 2553

วิศวะคอมพิวเตอร์ มช. คว้าสองรางวัลใหญ่จากการประกวดนวัตกรรมเพื่อผู้พิการ


จากการประกวด นวัตกรรมเพื่อผู้พิการในงาน ถนนเทคโนโลยี ๒๕๕๓ หรือ Technology Street ๒๐๑๐ ซึ่งจัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในระหว่างวันที่ ๑๒-๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา ณ ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ เพื่อเป็นเวทีในการพัฒนาต่อยอด และสนับสนุนให้นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ได้แสดงความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการคิดค้นออกแบบผลงานที่ช่วยพัฒนาศักยภาพในการทำงานทดแทน อวัยวะที่สูญเสียไปของผู้พิการได้เป็นอย่างดีนั้น

นักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คว้าสองรางวัลใหญ่จากการประกวดนวัตกรรมเพื่อผู้พิการ โดยนำผลงานชื่อ โปรแกรม แปลภาษาไทยเป็นภาษามือไทยสามมิติ คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับที่ ๑ ทุนการศึกษา จำนวนเงิน ๕๐,๐๐๐.- บาท พร้อมโล่เกียรติยศ และผลงาน "เครื่องเปิดหนังสืออัตโนมัติสำหรับผู้พิการทางแขน" คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ ๒ ทุนการศึกษา ๒๐,๐๐๐.- บาท จากการประกวดนวัตกรรมเพื่อผู้พิการ

(www. blognone.com/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๑๔ มิ.ย.๒๕๕๓)

09 มิถุนายน 2553

คนหูหนวกร่วมคนพิการ ประท้วงสลาก



08 มิถุนายน 2553 เวลา 19:11 น.
"เป็นปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลภายในเวลารวดเร็วโดยที่ศอฉ.ไม่ต้องสั่งใช้กำลังทหาร จากนี้เหลือแต่การเยียวยา จิตใจและสร้างความเป็นธรรมตามข้อเรียกร้อง"

โดย...ทีมข่าวการเมือง

เหตุการณ์บ้านเมืองกลับคืนสู่ความสงบ หลังการบังคับใช้กฎหมายภายใต้การบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยังคงมีความศักดิ์สิทธิ์ อยู่เหนือกฎหมู่ การกระชับพื้นที่ได้ผล กลุ่มคนเสื้อแดงยุติการชุมนุม ขณะที่แกนนำเข้ามอบตัว เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ความตรึงเครียดของบ้านเมืองผ่อนคลายลง

แต่ทว่า เช้าวันนี้ ความชุลมุนมาเยือนทำเนียบฯ เมื่อกลุ่มสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ประมาณ 200 คน นำโดยสมชาย ปัญญาวงศ์ นายกสมาคมคนตาบอด เดินทางมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อเรียกร้องขอพบตัวแทนรัฐบาลและให้มีการจัดสรรโควตาสลากการกุศลใหม่


นับเป็นผู้ชุมนุมกลุ่มแรก ที่ประเดิมต้อนรับรัฐบาล ถึงหน้าทำเนียบฯ ตั้งแต่สถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองสงบ ที่แน่ๆ พวกเขาไม่มีชุดดำ ไม่มีการ์ดเป็นการถาวร มีแต่ไม้เท้า รถเข็น และภาษามือ คอยอำนวยความสะดวก ต่อการสื่อสารเรียกร้องรัฐบาล

กองกำลังติดภาษามือ เคยมาเรียกร้องความต้องการของวกเขาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งล่าสุด เลขานุการของประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ประสานงานให้ไปพบที่กระทรวงการคลังเพื่อเจรจา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่เมื่อไปถึงแล้วกลับไม่มีรัฐมนตรี เลขานุการ หรือ ปลัดกระทรวง เข้าร่วมหารือเลยมีเพียงตัวแทนระดับผู้อำนวยการ เท่านั้น ผู้พิการเหล่านี้จึงรู้สึกว่าถูกหลอกและวันนี้จึงมาเพื่อขอพบกับรัฐมนตรีประดิษฐ์

ความวุ่นวายพัฒนาขึ้นตามลำดับ

เวลา 11.45น. ยังไม่มีตัวแทนของรัฐบาลออกมารับเรื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30 ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจ มีการจัดทัพให้คนหูหนวกที่สายตาดีอยู่แถวหน้า ขณะที่ผู้พิการทางตาแตะไหล่เกาะกลุ่มอยู่แถวหลัง

การผลักดันประตูรั้วบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐเกิดขึ้น สามารถเคลื่อนเข้ามาอยู่บน ถ.นครปฐม หน้าประตู 1 ของทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับเรียกร้องขอพบประดิษฐ์ ซึ่งขณะนั้น รมต.ประดิษฐ์ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลแล้ว จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบช.น.1 เข้ามาเจรจา ขอให้ผู้ชุมนุมออกไปอยู่บริเวณเดิม

แต่ไม่เป็นผล

พล.ต.ต.วิชัย จึงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ขณะนี้ผู้ชุมนุมกำลังทำผิด พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และบุกรุกเข้ามาในสถานที่ต้องห้าม จึงขอให้ถอนกลับไปอยู่ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ และให้กำลังตำรวจประมาณ 2 กองร้อยเข้ามารักษาความปลอดภัย และเคลื่อนรถขังผู้ต้องหาเข้ามาใกล้ สร้างความไม่พอใจให้ผู้ชุมนุมและตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่


อย่างไรก็ตามขณะนั้น สมชายผู้เป็นแกนนำ ได้ไปยืนอยู่ที่ริมคลองเปรมประชากร และประกาศว่าหาก เจ้าหน้าที่ตำรวจทำอะไรก็จะกระโดดน้ำฆ่าตัวตายทันที

ต่อมา นายประดิษฐ์ ได้โทรศัพท์ ประสานเข้ามาขอคุยกับนายสมชายเพื่อขอให้ไปพบที่ กระทรวงการคลัง แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอม และระบุว่า “ พวกเขาเป็นคนพิการทำไมนายประดิษฐ์ที่เป็นรัฐมนตรีมีกระทั่งรถนำ ไม่มาหาพวกเขาที่นี่ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ให้ใครออกมาพบก็ได้ ให้นายศิริโชค โสภา ส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทนายกฯมาพบก็ได้ แต่ในที่สุดก็ไม่มีใครออกมาเจรจา จากนั้น พล.ต.ต.วิชัยก็ประกาศว่า เมื่อรัฐบาลเปิดโอกาสให้ไปเจรจาที่กระทรวงการคลัง แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย และขอให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ซึ่ง ก็ทีผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งยอมออกไป แต่อีกจำนวนหนึ่งก็ยังอยู่

จากนั้นพล.ต.ต.วิชัย จึงตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปจับกุมแกนนำที่อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้นายสมชายตัดสินใจกระโดดน้ำทันที แต่เนื่องด้วยน้ำในคลอง ไม่ลึกและมีผู้กระโดดตามไปทำให้นายสมชายไม่ได้รับอันตราย และในขณะนั้นเองเจ้าหน้าที่ก็ได้ควบคุมแกนนำ และผู้ที่ขัดขวางการจับกุม ท่ามกลางการด่าทอและความชุลมุน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องขังทั้งที่พิการและไม่พิการกว่า 20 คน

หลังจากจับกุมแกนนำ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เริ่มผลักดันผู้ชุมนุมที่เหลือจำนวนไม่มากให้กลับไป อยู่ที่เชิงสะพานชมัยมนุเชฐ และบอกให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายกันไปเจรจากับ รัฐมนตรีที่กระทรวงการคลัง แต่หากไม่ไปเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการจับกุมเนื่องจากกระทำผิด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ กีดขวางการจราจร โดยจะใช้เจ้าหน้าที่สามคนต่อผู้ชุมนุมหนึ่งคน และจะเริ่มจับกุมจากผู้ชาย ก่อน

ระหว่างนั้นเองเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ายึดรถกระบะที่นำมาจอดเพื่อเป็นรถอำนวยการไว้ ทำให้ผู้ชุมนุมต้องแยกย้ายกันกลับไป ส่วนนายสมชายนั้นได้ขึ้นฝั่งที่คลองอีกด้านหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตามไปคุมตัวไว้ได้ ก่อนที่จะนำไปควบคุมตัวที่ สน.ดุสิต ต่อไป หลังจากนั้นเหตุการณ์หน้าทำเนียบจึงเข้าสู่ภาวะปกติในเวลาประมาณ 14.45 น.

ถือเป็นปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลภายในเวลารวดเร็ว โดยที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ไม่ต้องสั่งใช้กำลังทหาร จากนี้เหลือแต่การเยียวยาจิตใจและสร้างความเป็นธรรมตามข้อเรียกร้อง ซึ่งไม่รู้ว่าจะดำเนินการได้ผลขนาดไหน เพราะดันเปิดปฏิบัติการขอกระชับพื้นที่กับคนพิการซะขนาดนี้

07 มิถุนายน 2553

ครูญาดา ชินะโชติ

โลกแห่งความเงียบที่ผู้พิการทางหูประสบอยู่นั้นคงจะเป็นเรื่องยากในการสื่อสารกันกับคนทั่วไปที่จะให้เข้าใจได้ ครูญาดา ชินะโชติ ครูสอนภาษามือโรงเรียนเศรษฐเสถียร ได้อุทิศทั้งชีวิตกับเด็กที่พิการทางหูโดยการให้เรียนรู้การใช้ภาษามือตั้งแต่การนับเลข ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ตลอดจนสอนคนทั่วไปที่อยากจะเข้าใจโลกแห่งความเงียบนี้ ทั้งๆ ที่ครูญาดา ไม่ได้เงินเดือนแต่อย่างใด การสอนภาษามือของครูญาดานี่เองที่ได้ช่วยให้โลกเงียบของผู้พิการทางหูไม่ได้เป็นแค่โลกไร้เสียงของผู้พิการทางหูอีกต่อไป

ขอเชิญคลิกอ่านลิงก์ด้านบน :)


โพส : วันศุกร์ที่ 04 มิถุนายน 2553 เวลา 08:53
โดย : ทีมงานทรูปลูกปัญญา

04 มิถุนายน 2553

หุ่นยนต์แปลภาษามือ


หุ่นยนต์แปลภาษามือ
คลิปวีดีโอข่าวช่อง 9

เชียงใหม่ 4 มิ.ย. - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สร้างหุ่นยนต์ต้นแบบแปลภาษามือผู้พิการทางการได้ยิน ประสบความสำเร็จเป็นตัวแรกของโลก

นักศึกษาและอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันสร้างหุ่นยนต์ต้นแบบแปลภาษามือให้ผู้พิการทางการได้ยิน ประสบความสำเร็จเป็นตัวแรกของโลก หลังใช้เวลาในการวิจัยนานเกือบ 5 ปี โดยใช้เทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ จดจำภาษามือภาษาไทย เริ่มจากการเก็บและสร้างต้นแบบไว้มากกว่า 4,000 ภาพภาษามือ ซึ่งขณะนี้สามารถอ่านภาษามือได้เพียง 10 คำ โดยจดจำภาษามือที่เป็นภาพเคลื่อนไหวและเสียงพูดภาษาไทย เช่น ผู้หญิง ผู้ชาย พี่ ปู่ ย่า ตา ยาย ขอบคุณ คิดถึง ใจดี และยังทำหน้าตาเป็นหมีแพนด้าหลินปิงได้ด้วย ซึ่งหุ่นยนต์จะอ่านภาพภาษามือผ่านกล้อง และแปลออกมาทางหน้าจอและเสียงพูด

ผศ.ดร.ศันสนีย์ เอื้อพันธ์วิริยะกุล อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความจำมากขึ้น และให้มีขนาดเล็กพกพาได้ หากประสบความสำเร็จจะทำให้ผู้พิการทางการได้ยินกว่า 100,000 คนทั่วประเทศ สามารถสื่อสารกับคนทั่วไปที่ไม่รู้ภาษามือ โดยใช้ซอฟต์แวร์และหุ่นยนต์เป็นผู้ช่วยได้. - สำนักข่าวไทย

01 มิถุนายน 2553

ประกาศจากค่ายหูหนวก กลุ่ม GRO



ขอประกาศเรื่อง อาสาสมัครค่ายผู้นำหูหนวก ได้เลื่อนออกไปในปีหน้า เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยในที่ผ่านมา จะแจ้งข่าวให้ทราบ ขอขอบคุณที่ติดตาม

ความคิดเห็นที่ 1 : น่าเสียดายจัง ตอนนี้เหตุการณ์ก็น่าจะสงบแล้วนะ
Hunuak