24 ตุลาคม 2552

"น้ำพุ" ฉบับเงียบฝีมือเด็กพิเศษมสด.


เป็นอันรู้ดีว่าที่มาของความสามารถนั้นมีอยู่ด้วยกัน อยู่สองรูปแบบ ก็คือ แบบพรสวรรค์ และแบบพรแสวง ซึ่งทั้งสองอย่างที่กล่าวมานี้ไม่ว่าแต่ละคนจะมีอยู่ด้วยกันในรูปแบบไหนๆในที่สุดแล้วก็เป็นอันว่าเจ้าของความสามารถต่างภาคภูมิใจไม่ด้วยกันทั้งนั้น

เฉกเช่นความภูมิใจของเหล่าเด็กพิเศษที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ของ ชมรมภาษามือไทย ในหลักสูตรการศึกษาพิเศษ จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ที่พวกเขาต่างได้ซุ่มรวมตัวกันผลิตผลงานภาพยนตร์หนังสั้น เรื่อง น้ำพุ ขึ้นมา เพื่อเป็นการบอกกับสังคมให้รู้ว่า พวกเขามีศักยภาพอย่างเท่าเทียมกับคนปกติทั่วไป... และก็กำลังมีความภูมิใจนำเสนออีกเสียด้วย

"วิทยุต บุนนาค" อาจารย์ที่ปรึกษาของชมรมภาษามือไทยและเป็นผู้ดูแลเรื่องการแสดงของนักศึกษาในภาพยนตร์เรื่องนี้แม้จะเป็นคนต่างชาติที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเช่นกันแต่ก็สามารถอธิบายถึงผลงานนี้ได้อย่างลึกซึ้งว่า "การทำภาพยนตร์ในครั้งนี้ที่เลือกเรื่อง "น้ำพุ" เพราะมันค่อนข้างตรงกับวัยของนักศึกษา และเรายังต้องการเผยแพร่ภาษามือออกสู่สังคมให้มากขึ้นด้วยรวมไปถึงคนปกติทั่วไปก็สามารถเรียนรู้ภาษามือได้และง่ายต่อการจดจำจากภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย และยังมี"วิโรจน์ องค์อภิชาต" หรือ "บี" ที่รับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ บอกว่า เคยแต่ดู พอได้มาลองทำยอมรับว่ายากมากแต่ภูมิใจที่ผ่านมาได้ด้วยดี"

นอกจากเนื้อหาสาระของหนังแล้วอาจารย์บอกเพิ่มเติมว่า "ท่านผู้ชมยังจะได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมของการใช้ภาษาในกลุ่มคนพิเศษว่าแท้จริงแล้วก็มีการใช้ภาษาท่าทางที่มีความหมายได้อย่างลึกซึ้งเหมือนคนปกติทั่วไปเช่นกันที่สำคัญหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะก่อเกิดประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างดีที่สุด"อาจารย์ขยายความ

นายสุวัฒน์ บุณเพ็ญ หรือ “โอ” นักศึกษาหลักสูตรการศึกษาพิเศษ ชั้นปีที่ 3 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน รับบทแสดงเป็น น้ำพุ พระเอกของเรื่องซึ่งเป็นเด็กมีปัญหา ติดยาเสพติด โอ บอกว่าได้รับประสบการณ์ทางการแสดงที่น่าสนใจและไม่เคยคิดว่าตนเองจะทำได้มาก่อนอีกด้วย “ การแสดงเป็นน้ำพุ นั้นเป็นบทที่แสดงยากและไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อนจึงมีอาจารย์และเพื่อนๆ ให้คำแนะนำในการฝึกทำสีหน้า ท่าทาง ให้เข้าถึงบทง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากได้ประสบการณ์ในการแสดงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีประโยชน์ต่อเยาวชนและสังคมในเรื่องโทษของยาเสพติดรวมถึงแนวทางในการป้องกันอีกด้วย”

ส่วน "สุพัตรา มงคลแสง" หรือ "แนน" นักศึกษาหลักสูตรการศึกษาพิเศษ ชั้นปีที่ 3 ที่รับบทนางเอก ชื่อ "แป้ง" แฟนสาวของน้ำพุ ที่เป็นเด็กสาวที่ใจแตก ตัวติดกันกับแฟนหนุ่ม(น้ำพุ)ตลอด น้องแนน เล่าว่าแม้ว่าตนจะเป็นเด็กพิเศษที่คนอื่นคิดว่าเราไม่มีบทบาทอะไรนั้น แต่แท้จริงแล้วการแสดงก็ทำให้เธอรู้จักตัวเองว่าเป็นคนที่มีความสามารถทำอะไรได้เหมือนกับคนปกติเช่นกัน

“ตอนแรกรับบทเป็นคนใช้ในบ้านของน้ำพุแต่รูสึกว่ามันไม่ใช่บทบาทที่ถนัดเลยเปลี่ยนบทมาเป็นนางเอกแทนแต่การแสดงเป็นแป้งก็ยากกว่าเป็นคนใช้อยู่หลายเท่า แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้เพราะมีความตั้งใจและคิดว่าเราก็ทำได้เหมือนีคนอื่นนะ”

และอีกหนึ่งบทบาทที่โดนสังคมมองว่าร้ายกาจและเป็นภัยสังคมตลอดมา กับบท “จ๋า” โสเภณีสาวสวย ซึ่งรับบทโดย "ร่มขวัญ สายทอง" หรือ "ขวัญ" นักศึกษาหลักสูตรการศึกษาพิเศษ ชั้นปีที่ 4 ซึ่งประเดิมละครเรื่องแรกขวัญก็รับบทแรงเสียแล้วแต่นั่นก็ทำให้เจ้าตัวคิดว่าเป็นการพิสูจน์ความสามารถและเป็นโอกาสที่หาได้ยากและยิ่งตัวเธอเป็นเด็กพิเศษด้วยแล้วการได้ทำกิจกรรมดังกล่าวนั้นเป็นอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอภาคภูมิใจในตัวเอง

“ ตอนแรกที่เพื่อนให้บทไป ก็ปฏิเสธในทันที เพราะกลัวว่าคนจะมองเราไม่ดี แต่พอเพื่อนๆ อธิบายให้เราทำความเข้าใจว่า มันเป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้นจึงรับบทจ๋าเป็นโสเภณีที่ ชอบพอ ในตัวน้ำพุ และหลอกน้ำพุให้มาอยู่กินด้วยและยังยึดอาชีพขายตัวเพื่อเลี้ยงตัวเองไปด้วย เป็นประสบการณ์ที่ดีและได้เกิดมุมมองใหม่ในอาชีพนี้ ว่าแท้จริงมันก็เป็นอาชีพหนึ่งที่ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยเพราะท้ายที่สุดมันก็เพื่อความอยู่รอดของชีวิตเขาและคนในครอบครัวตามสถานะที่พอจะอยู่ได้ แค่อาจต่างตรงวิถีทางเท่านั้นเอง”ขวัญสรุปก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการเฉลยคำถามที่หลายคนอาจสงสัย ว่าแล้วละครเรื่องนี้คนธรรมดาจะดูเข้าใจยังไง ตลอดจนจะแสดงกันอย่างไร

ซึ่งก็ไขเฉลยว่าแสดงโดยใช้ภาษามือเป็นการสื่อสาร ส่วนที่เหลือจะเป็นเรื่องของอารมณ์ สีหน้าและความรู้สึกที่คนอ่านภาษาออกมือออกก็จะดูและเข้าใจได้ง่ายขึ้นส่วนคนที่ยังดูภาษามือไม่เข้าใจก็ให้จับที่หน้าตา อารมณ์ความรู้สึกและใช้หัวใจที่เปิดกว้างให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่บกพร่องด้านร่างกายรับชม

1 ความคิดเห็น:

Hunuak กล่าวว่า...

ถือเป็นก้าวแรกของการแสดงละครหูหนวก ที่ได้รวมตัวกันทำกิจกรรมสร้างสรรค์ผลงาน แสดงความสามารถให้สังคมได้เห็นศักยภาพของคนหูหนวก อีกทั้งยังตั้งชมรมภาษามืออีกด้วย ขอสนับสนุนกิจกรรมนี้ต่อไปให้เจริญขึ้นเรื่อยๆครับ