13 มกราคม 2555

"วากาบอนด์" การ์ตูนญี่ปุ่น....ยอดนักดาบหูหนวก


ไม่ขอพูดพล่ามทำเพลงให้มากพิธี คอลัมน์การ์ตูนตรึงใจ วันนี้ มีของดีมากฝากกันครับ เรื่องที่จะนำมาเสนอต่อท่านผู้อ่านคือ "วากาบอนด์" (Vagabond) ซึ่งฟังแล้วชื่อเหมือนกับเป็นการ์ตูนฝรั่ง ไม่ใช่ของญี่ปุ่น โดยคำว่า วากาบอนด์นั้น ในภาษาอังกฤษ มีความหมายว่า "ผู้เร่ร่อน" โดยรากศัพท์ของคำๆ นี้มาจากภาษาละติน ผ่านทางภาษาฝรั่งเศสคำว่า vagabundus และ vagary

สำหรับการ์ตูนเรื่องวากาบอนด์ ได้นำเอาเค้าโครงเรื่องมาจากชีวประวัติของซามูไรผู้มีชื่อเสียงระดับตำนานของประเทศญี่ปุ่น นามว่า มิยาโมโตะ มุซาชิ (เป็นนวนิยายผลงานการประพันธ์ของ เอจิ โยชิคาวะ ตีพิมพ์ในนิตยาสารมอร์นิ่ง ตั้งแต่ ค.ศ.๑๙๙๘) มาแต่งแต้มสีสันผ่านลายเส้นที่สวยงามของ ทาเคฮิโกะ อิโนอุเอะ เจ้าของผลงานสแลมดังก์ อันลือลั่น ตัวเอกของเรื่อง คือ มิยาโมโตะ มุซาชิ หรือชื่อเดิมคือ ชินเม็ง ทาเคโซ เป็นเด็กที่มีนิสัยเกกมะเหรกเกเร นิยมการใช้กำลัง จนถูกมองว่าเป็นอันธพาล และเป็นเด็กมีปัญหาของหมู่บ้าน ร้ายแรงถึงขนาดไม่มีใครยอมคบหาสมาคมด้วย สิ่งที่ทำให้ มิยาโมโตะ มุซาชิ กลายเป็นคนที่ร้ายกาจ ชอบการต่อสู้ เป็นเพราะมีปมด้อยที่ติดตัวมาตั้งแต่ยังเล็ก นั่นคือ การที่เกิดเป็นบุตรชายของ ชินเม็ง มุนิไซ ยอดนักผู้มีฝีมือลือเลื่อง ซึ่งความเก่งกาจของพ่อ ได้ทำให้เขาเกิดความรู้สึกกดดัน ไม่ต้องการอยู่ใต้ร่มเงาความยิ่งใหญ่ของพ่อ จึงต้องการพิสูจน์ให้ใครๆ เห็นว่า เขาเองก็มีฝีมือ และดีพอที่จะเป็นยอดนักดาบอันดับหนึ่งในปฐพี

ความทะเยอทะยานที่มากมายมหาศาล ทำให้ มิยาโมโตะ มุซาชิ เดินทางออกจากหมู่บ้านมิยาโมโตะ แคว้นซาคุ พร้อมด้วยเพื่อนสนิทอีกสองคน คือ ฮอนอิเด็ง มาตาฮาชิ และ โอซึอุ จากนั้นได้เข้าร่วมสงคราม เพื่อหวังจะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ประจักษ์ แต่ทว่าฝ่ายที่เข้าร่วมกลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงคราม ทำให้เขาต้องหนีเอาตัวรอด ทั้งจากการตามล่าของทหารฝ่ายตรงข้าม และชาวบ้านที่โกรธแค้นเนื่องจากญาติมิตรถูกสังหาร ชีวิตของ มิยาโมโตะ มุซาชิ ต้องพบกับการต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันก็ได้ช่วยให้เขาได้พัฒนาฝีมือจนเก่งกล้าขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแต่เดิมนั้น เขาเป็นนักสู้ประเทศบุ่มบ่าม มุทะลุดุดัน ใช้เพียงกำลังเข้าหักหาญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เปรียบก็คล้ายกับสัญชาตญาณของสัตว์ป่า ที่มุ่งเอาชนะด้วยกำลัง แต่เมื่อต่อสู้ไปนานเข้า ได้พบกับบุคคลที่มีลักษณะต่างๆ ซึ่งยอดฝีมือเหล่านี้ เป็นทั้งศัตรู และ อาจารย์ สอนให้เขาได้เรียนรู้ถึงสัจธรรม และ ปรัชญาของชีวิต ทำให้กลายเป็นนักดาบที่มีความสุขุมลุ่มลึก มีฝีมือน่าเกรงขามที่สุดว่ากันว่า น้อยครั้งนัก ที่มิยาโมโตะ มุซาชิ ประลองกับใครแล้วพบกับความพ่ายแพ้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าว่า เขาเคยถูกลูกศิษย์ของสำนักโยชิโอกะตามไล่ล่า แต่ก็กลับเป็นฝ่ายสังหารคนเหล่านั้นได้ถึง ๗๐ คน เพียงแค่ชั่วข้ามคืน ส่วนสาเหตุที่ถูกตามล่าก็เพราะเขาสังหารยอดฝีมือที่เป็นเจ้าสำนักโยชิโอกะถึง ๓ คน

นอกจากมิยาโมโตะ มุซาชิ แล้ว เนื้อเรื่องก็ยังได้กล่าวถึง ซาซากิ โคจิโร่ อีกหนึ่งยอดนักดาบ เขาเป็นผู้ที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์ แต่เป็นคนที่อาภัพ คือ เป็นใบ้ และหูหนวก ต้องเป็นกำพร้าตั้งแต่ยังเล็ก เนื่องจากครอบครัวถูกสังหารหมู่ มีเพียงเขาคนเดียวที่รอดชีวิตพร้อมกับดาบที่ยาวกว่าดาบทั่วไปเป็นสมบัติติดกายเพียงชิ้นเดียว ดาบยาวเล่มนี้ เป็นสิ่งมีค่าของตระกูล และเป็นสิ่งที่โคจิโร่หวงแหนเป็นอย่างมาก หากมีใครแยกดาบออกไปห่างตัว มุโคจิโร่ในวัยเด็กก็จะร้องไห้จ้าในทันที ถ้าจะให้หยุดก็ต้องเอาดาบกลับมาไว้ในอ้อมแขนเหมือนเดิม คนที่ไปพบและชุบเลี้ยงโคจิโร่คือ คาเนมากิ จิไซ อดีตครูดาบที่ชีวิตตกอับ และหันหลังให้กับวงการ ซึ่งเป็นอาจารย์ของพ่อของโคจิโร่ ก่อนหน้านี้เป็นครูดาบที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง แต่เพราะพ่ายแพ้แก่ลูกศิษย์คนหนึ่ง ทำให้เกิดความท้อแท้จนแทบไม่อยากจับดาบอีก จิไซ เลี้ยงดูโคจิโร่จนเติบใหญ่ แต่ก็ไม่ยอมให้โคจิโร่เรียนรู้วิชาดาบ เพราะไม่ต้องการให้มีจุดจบเช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อ แต่โชคชะตาก็กำหนดให้โคจิโร่กลายมาเป็นนักดาบฝีมือฉกาจ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากพรสวรรค์ ที่ชดเชยความพิการของเขา ต่อมาโคจิโร่ได้ออกเดินทางไปพร้อมกับดาบยาว สมบัติชิ้นเดียวของตระกูลที่เหลืออยู่ และได้เป็นศิษย์ของ อิโต้ อิตโตไซ อีกหนึ่งยอดนักดาบ ผู้มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง ซึ่งเขาผู้นี้ ก็คือลูกศิษย์ผู้ที่เอาชนะ คาเนมากิ จิไซ นั่นเอง ส่วนการสอนของอิโต้ ที่ได้มีให้กับโคจิโร่นั้น คือการให้ต่อสู้จริง โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน

การดวลกันระหว่างสองยอดฝีมือในเชิงดาบ หนึ่งคือ มิยาโมโตะ มุซาชิ อีกหนึ่งคือ ซาซากิ โคจิโร่ เป็นการประลองที่ถือเป็นสุดยอด เป็นที่จดจำมิรู้ลืม โดยทั้งสองคนนี้ ถือได้ว่าเป็นทั้งมิตรและศัตรูของกันและกัน เสียดายจังที่หน้ากระดาษมีอยู่จำกัด เพราะมีเรื่องให้สาธยายเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้เยอะแยะไปหมด แต่ละมุมล้วนน่าสนใจทั้งนั้น เอาเป็นว่าใครที่ชอบเรื่องชีวิตแบบหนักๆ แต่สนุก อิงประวัติศาสตร์ แนวนี้ รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ (แนวหน้าออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๑๑ เม.ย. ๒๕๕๓ )

โดย แนวหน้าออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๑๑ เม.ย. ๒๕๕๓ - 11 เม.ย 53

ไม่มีความคิดเห็น: